Mon Jun 25 18:15:25 2018 [7171 views]
เลือกเครื่องมือในการโค้ดเว็บ
ในการโค้ดเว็บนั้นจะนิยมใช้ Text Editor ในการโค้ดเป็นหลัก เพราะมีเครื่องมือฟรีเยอะแยะและใช้งานง่ายไม่ยุ่งยาก แถมยังสามารถรองรับภาษาโค้ดได้หลากหลายภาษาอีกด้วย เราจะมาลงโปรแกรม Text Editor เพิ่มเติมในการโค้ดกัน
Text Editor คืออะไร?
Text Editor คือโปรแกรมที่ใช้ในการแก้ไข plain text (ตัวอักษรรูปแบบปกติทั่วไป ไม่มีการตกแต่งใดๆ) เช่น Notepad(ของ Windows) TextEdit(ของ macOS) และ gedit(ของ Linux GNOME) หลายๆคนคงเคยใช้กันอยู่แล้วเพื่อ พิมพ์อะไรง่ายๆ หรือแก้ไขอะไรง่ายๆ เพราะเป็นโปรแกรมที่คอมทุกเครื่องมีมาให้
จากตัวอย่างที่ยกมา อย่างนี้เราก็ใข้โปรแกรมที่มีมากับเครื่องอยู่แล้วเขียนเว็บได้เลยล่ะสิ คำตอบคือใช่ครับ เราจะใช้ พวกนี้เขียนโค้ดเว็บก็ได้ หน้าตามันก็จะออกมาเป็นประมาณนี้
มันก็พอเขียนได้นี้น่า แล้วทำไมเราต้องลงโปรแกรมเพิ่มเติมเพื่อโค้ดด้วยล่ะ? งั้นเรามาลองเปรียบเทียบกับการเลือกโปรแกรม Text Editor ดีๆมาโค้ดเช่นโปรแกรมนี้
เราจะเห็นได้ว่าโปรแกรม Text Editor ดีๆ ที่ใช้โค้ดโดยเฉพาะจะมีไฮไลท์สีให้ด้วยเพื่อช่วยให้เราโค้ดได้ง่ายขึ้นและยังช่วยในเรื่องอื่นๆอีกเยอะแยะ ยิ่งเรามีโค้ดมากขึ้นเท่าไหร่ยิ่งเครื่องมือเราดีเท่าไหร่ก็ยิ่งช่วยให้งานเราง่ายขึ้น เพราะฉะนั้นเครื่องมือในการโค้ดจึงเป็นสิ่งจำเป็นมากๆ ในที่นี้ผมจะแนะนำ text editor 3 ตัวที่ฟรี ใช้งานไม่ยาก ใช้ได้กับทุกระบบปฏิบัติการ และนิยมใช้ในหมู่นักพัฒนาเว็บกันนะครับ
Sublime Text
ต้องบอกก่อนว่าจริงๆตัวนี้ต้องจ่ายตังค์เพื่อใช้ต่อไปเรื่อยๆ เพราะเวลาเราใช้แบบไม่มี license(โค้ดอนุญาตของโปรแกรม) จะมีข้อความเด้งขึ้นมาเป็นบางช่วงว่าให้ซื้อ license ซะ ถ้ายังอยากใช้ต่อ ผมแนะนำว่าถ้าอยากลองใช้ดูก่อนสักพักก็สามารถใช้ตัวนี้ได้เพราะมันไม่จำกัดเวลาที่จะต้องซื้อ license แต่ถ้าจะใช้แบบจริงจัง ทำงานจริงๆ หรือใช้แล้วถูกใจจริงๆ ก็แนะนำว่าให้อุดหนุนเขาเถอะครับ เพราะว่ากว่าจะพัฒนาโปรแกรมแต่ละตัวมาได้ใช้โปรแกรมเมอร์หลายคนและโค้ดที่เขียนไปก็เป็นหลายหมื่นบรรทัด ซึ่งราคาต่อหนึ่ง license(ใช้กับกี่เครื่องก็ได้)ก็อยู่ที่ 80 USD หรือประมาณ 2,640 บาท ซึ่งเป็นราคาที่ค่อนข้างสูงสำหรับคนที่เพิ่งเริ่มโค้ด ก็แนะนำว่าให้ลองใช้ไปเรื่อยๆและเปรียบเทียบกับตัวอื่นที่อยู่ในสามตัวนี้ดูว่าคุ้มค่าพอจะซื้อไหม
ส่วนตัวผมเองทุกวันนี้ไม่ได้ใช้ Sublime Text แล้วครับ แต่ตอนเริ่มโค้ดใหม่ๆก็ใช้ตัวนี้แหละ เพราะตอนนั้นยังมีตัวเลือกไม่เยอะมากและตัวนี้เป็นตัวที่ใช้งานง่าย UI สวย สีสวย 555+ แต่ทุกวันนี้ก็ยังมีหลายคนที่ยังใช้ตัวนี้อยู่เพราะว่ามีข้อได้เปรียบเรื่องความเร็วของโปรแกรมเนื่องจากถูกพัฒนามาเป็นอย่างดีโดยตัวบริษัท Sublime เอง ไว้ถ้ามีคนสนใจอยากให้รีวิวการใช้งานตัวนี้ก็จะทำให้นะครับ
สามารถดาวน์โหลดโปรแกรม Sublime Text ได้ที่ https://www.sublimetext.com/3 เลือกระบบปฏิบัติการที่เราใช้และลงโปรแกรมเลยครับ
Atom
Atom โปรแกรม Text Editor ที่ถูกพัฒนาขึ้นโดย GitHub ง่ายๆคือเป็นบริษัทที่เป็นผู้นำด้านการแชร์โค้ดและเป็นแหล่งชุมชนของนักโค้ดและ Open Source(โค้ดที่ใครก็สามารถอ่าน แก้ไข นำเอาไปใช้ได้ตามข้ออนุญาตที่เจ้าของระบุไว้) วันหลังเราจะมาทำความรู้จักบริษัทนี้แบบละเอียดเพราะเป็นบริษัทที่สำคัญสำหรับนักโค้ดมาก ซึ่งโปรแกรมตัวนี้ก็เป็น Open Source เช่นกันและสามารถนำไปใช้ฟรีได้ทั้งสิ้น ก็หมายความว่าถ้าเราอยากรู้ว่าโปรแกรมนี้ถูกเขียนขึ้นมาอย่างไรก็สามารถเข้าไปศึกษาตัวโค้ดได้เลยที่ https://github.com/atom/atom
เป็น Text Editor ที่นิยมมากสุดๆช่วงนึง เพราะมันใช้ฟรีและใช้งานง่ายมาก และสามารถลง Packages(ความสามารถเสริมให้ตัวโปรแกรม) ได้ง่ายๆ และหลากหลาย อย่างที่ผมบอกว่ามันเป็น Open Source เพราะฉะนั้นนักโค้ดทั้งหลายที่เก่งๆจากทั่วโลกก็สามารถช่วยกันพัฒนาให้โปรแกรม Atom ดีขึ้นไปเรื่อยๆได้ และเขียนส่วนเสริมที่มีประโยชน์ต่อนักโค้ดคนอื่นทั่วโลกได้ง่ายๆ เช่นกัน สมชื่อ the hackable text editor(text editor ที่สามารถให้เราแก้ไขอะไรก็ได้)
ส่วนตัวผมทุกวันนี้ก็ไม่ค่อยได้ใช้ Atom แล้วเหมือนกันครับแหะๆ แต่ใช้เป็นบางช่วงสำหรับเฉพาะบางภาษาเพราะส่วนเสริมบางตัวก็ดีมากจริงๆ แต่เคยใช้ตัวนี้อยู่เกือบสองปีได้ จนตัวสุดท้ายที่จะพูดถึงในวันนี้ถือกำเนิดและทำให้ผมย้ายไปใช้ตัวนั้นแทน เพราะว่าหลังๆรู้สึกลงตัวเสริมให้โปรแกรมตัวนี้เยอะๆแล้ว จะทำให้เปิดโปรแกรม Atom ช้ามากๆ ทำให้รู้สึกอยากเปลี่ยน แต่ทุกวันนี้ความเร็วก็ดีขึ้นเยอะแล้วครับจากที่ลองใช้บ้างเป็นบางครั้ง
สามารถดาวน์โหลดโปรแกรม Atom ได้ที่ https://atom.io/
Visual Studio Code
มาถึงตัวสุดท้ายของวันนี้ และเป็นตัวที่ผมใช้อยู่ปัจจุบันคือ Visual Studio Code ครับ เป็น Text Editor ของบริษัท Microsoft(ไมโครซอฟท์) ซึ่งหลายๆคนก็น่าจะรู้จักบริษัทนี้เพราะเป็นยักษ์ใหญ่ในวงการไอที เป็นเจ้าของโปรแกรมดังๆหลายตัว ไม่ว่าจะเป็น Microsoft Office MSN Bing Skype และอื่นๆ แถมยังเป็นเจ้าของระบบปฎิบัติการคอมอันดับหนึ่งของโลกซึ่งก็คือ Windows เป็นที่ฮือฮามากที่โปรแกรมตัวนี้ก็เป็น Open Source เช่นกัน ทั้งๆที่ Microsoft เป็นบริษัทที่แสวงหาผลกำไรจากการขายโปรแกรมเป็นหลัก การที่เป็น Open Source ก็หมายความว่า Microsoft จะหาตังค์จากโปรแกรมตัวนี้ได้ลำบาก เพราะใครๆ ก็สามารถอ่านโค้ดและนำไปพัฒนาได้ ซึ่งก็คือ Microsoft จะไม่ได้ตังค์จากตัวนี้เลย เสียตังค์อีกต่างหากเพราะต้องจ้างโปรแกรมเมอร์มาพัฒนาเรื่อยๆ เพราะกว่าที่จะมีนักโค้ดคนอื่นมาช่วยกันพัฒนาก็ต้องรอสักระยะให้ตัวโปรแกรมเป็นที่นิยมก่อน แต่ที่ Microsoft จะได้ก็คือ ชื่อเสียงในหมู่นักโค้ดและความเชื่อมั่นว่า Microsoft ให้ความสำคัญกับนักโค้ดและ Open Source ขนาดไหน
Microsoft ชูจุดเด่นโปรแกรมตัวนี้โดยการบอกว่ามันเป็น Text Editor ที่เมพและฉลาดสุดๆ สามารถ autocomplete(คาดการณ์ว่าเราจะโค้ดอะไรและโค้ดให้เราเลยโดยอัตโนมัติ) โดยไม่ต้องลงส่วนเสริมใดๆ และยังมี terminal ฝังมาให้เลย ทำให้สามารถใช้คำสั่ง command line ในตัวโปรแกรมได้เลย ถ้าความสามารถที่มีมาให้ไม่พอก็สามารถลงส่วนเสริมต่างๆได้ เหมือน Atom เลย เพราะมันเป็น Open Source เช่นกันนั้นเอง
บอกเลยว่าโดยส่วนตัวผมติด text editor ตัวนี้งอมแงมและใช้มันแทบเป็นประจำถ้าไม่ได้ไปโค้ดฝั่งมือถือ ใช้มาได้สักสองสามปีแล้วยังไม่มีปัญหาอะไรเท่าไหร่ เลยแนะนำว่าถ้าเลือกไม่ถูกระหว่างสามตัวนี้ก็ลองใช้ตัวนี้ดูสักพักแล้วจะหลงรักมันไปเลยละครับ ตอนนี้ถ้าให้ดูที่อันดับยอดนิยมของเครื่องมือนักพัฒนา Visual Studio Code เป็นที่หนึ่งอยู่
สามารถดาวน์โหลดโปรแกรม Visual Studio Code ได้ที่ https://code.visualstudio.com/download
ทิ้งท้าย
สุดท้ายแล้วก็แล้วแต่ผู้อ่านเลยครับ ว่าถูกใจ text editor ตัวไหน อย่างที่เคยบอกไปก่อนหน้านี้ว่ามันไม่มีเครื่องมือที่ดีที่สุดหรอกครับ มีแต่ที่เหมาะที่สุดสำหรับผู้ใช้มากกว่า เพราะฉะนั้นอยากให้ลองทุกตัวที่พูดถึงครับ อาจจะเห็นไม่ตรงกับผู้เขียนก็ได้ ถ้าชอบใช้ตัวไหนหรืออยากแนะนำตัวอื่นก็บอกได้นะครับ หรือข้อมูลที่ให้มีข้อผิดพลาดใดๆ ก็สามารถชี้แจงกันได้นะครับ :)
ในการโค้ดเว็บนั้นจะนิยมใช้ Text Editor ในการโค้ดเป็นหลัก เพราะมีเครื่องมือฟรีเยอะแยะและใช้งานง่ายไม่ยุ่งยาก แถมยังสามารถรองรับภาษาโค้ดได้หลากหลายภาษาอีกด้วย เราจะมาลงโปรแกรม Text Editor เพิ่มเติมในการโค้ดกัน
Text Editor คืออะไร?
Text Editor คือโปรแกรมที่ใช้ในการแก้ไข plain text (ตัวอักษรรูปแบบปกติทั่วไป ไม่มีการตกแต่งใดๆ) เช่น Notepad(ของ Windows) TextEdit(ของ macOS) และ gedit(ของ Linux GNOME) หลายๆคนคงเคยใช้กันอยู่แล้วเพื่อ พิมพ์อะไรง่ายๆ หรือแก้ไขอะไรง่ายๆ เพราะเป็นโปรแกรมที่คอมทุกเครื่องมีมาให้
จากตัวอย่างที่ยกมา อย่างนี้เราก็ใข้โปรแกรมที่มีมากับเครื่องอยู่แล้วเขียนเว็บได้เลยล่ะสิ คำตอบคือใช่ครับ เราจะใช้ พวกนี้เขียนโค้ดเว็บก็ได้ หน้าตามันก็จะออกมาเป็นประมาณนี้
มันก็พอเขียนได้นี้น่า แล้วทำไมเราต้องลงโปรแกรมเพิ่มเติมเพื่อโค้ดด้วยล่ะ? งั้นเรามาลองเปรียบเทียบกับการเลือกโปรแกรม Text Editor ดีๆมาโค้ดเช่นโปรแกรมนี้
เราจะเห็นได้ว่าโปรแกรม Text Editor ดีๆ ที่ใช้โค้ดโดยเฉพาะจะมีไฮไลท์สีให้ด้วยเพื่อช่วยให้เราโค้ดได้ง่ายขึ้นและยังช่วยในเรื่องอื่นๆอีกเยอะแยะ ยิ่งเรามีโค้ดมากขึ้นเท่าไหร่ยิ่งเครื่องมือเราดีเท่าไหร่ก็ยิ่งช่วยให้งานเราง่ายขึ้น เพราะฉะนั้นเครื่องมือในการโค้ดจึงเป็นสิ่งจำเป็นมากๆ ในที่นี้ผมจะแนะนำ text editor 3 ตัวที่ฟรี ใช้งานไม่ยาก ใช้ได้กับทุกระบบปฏิบัติการ และนิยมใช้ในหมู่นักพัฒนาเว็บกันนะครับ
Sublime Text
ต้องบอกก่อนว่าจริงๆตัวนี้ต้องจ่ายตังค์เพื่อใช้ต่อไปเรื่อยๆ เพราะเวลาเราใช้แบบไม่มี license(โค้ดอนุญาตของโปรแกรม) จะมีข้อความเด้งขึ้นมาเป็นบางช่วงว่าให้ซื้อ license ซะ ถ้ายังอยากใช้ต่อ ผมแนะนำว่าถ้าอยากลองใช้ดูก่อนสักพักก็สามารถใช้ตัวนี้ได้เพราะมันไม่จำกัดเวลาที่จะต้องซื้อ license แต่ถ้าจะใช้แบบจริงจัง ทำงานจริงๆ หรือใช้แล้วถูกใจจริงๆ ก็แนะนำว่าให้อุดหนุนเขาเถอะครับ เพราะว่ากว่าจะพัฒนาโปรแกรมแต่ละตัวมาได้ใช้โปรแกรมเมอร์หลายคนและโค้ดที่เขียนไปก็เป็นหลายหมื่นบรรทัด ซึ่งราคาต่อหนึ่ง license(ใช้กับกี่เครื่องก็ได้)ก็อยู่ที่ 80 USD หรือประมาณ 2,640 บาท ซึ่งเป็นราคาที่ค่อนข้างสูงสำหรับคนที่เพิ่งเริ่มโค้ด ก็แนะนำว่าให้ลองใช้ไปเรื่อยๆและเปรียบเทียบกับตัวอื่นที่อยู่ในสามตัวนี้ดูว่าคุ้มค่าพอจะซื้อไหม
ส่วนตัวผมเองทุกวันนี้ไม่ได้ใช้ Sublime Text แล้วครับ แต่ตอนเริ่มโค้ดใหม่ๆก็ใช้ตัวนี้แหละ เพราะตอนนั้นยังมีตัวเลือกไม่เยอะมากและตัวนี้เป็นตัวที่ใช้งานง่าย UI สวย สีสวย 555+ แต่ทุกวันนี้ก็ยังมีหลายคนที่ยังใช้ตัวนี้อยู่เพราะว่ามีข้อได้เปรียบเรื่องความเร็วของโปรแกรมเนื่องจากถูกพัฒนามาเป็นอย่างดีโดยตัวบริษัท Sublime เอง ไว้ถ้ามีคนสนใจอยากให้รีวิวการใช้งานตัวนี้ก็จะทำให้นะครับ
สามารถดาวน์โหลดโปรแกรม Sublime Text ได้ที่ https://www.sublimetext.com/3 เลือกระบบปฏิบัติการที่เราใช้และลงโปรแกรมเลยครับ
Atom
Atom โปรแกรม Text Editor ที่ถูกพัฒนาขึ้นโดย GitHub ง่ายๆคือเป็นบริษัทที่เป็นผู้นำด้านการแชร์โค้ดและเป็นแหล่งชุมชนของนักโค้ดและ Open Source(โค้ดที่ใครก็สามารถอ่าน แก้ไข นำเอาไปใช้ได้ตามข้ออนุญาตที่เจ้าของระบุไว้) วันหลังเราจะมาทำความรู้จักบริษัทนี้แบบละเอียดเพราะเป็นบริษัทที่สำคัญสำหรับนักโค้ดมาก ซึ่งโปรแกรมตัวนี้ก็เป็น Open Source เช่นกันและสามารถนำไปใช้ฟรีได้ทั้งสิ้น ก็หมายความว่าถ้าเราอยากรู้ว่าโปรแกรมนี้ถูกเขียนขึ้นมาอย่างไรก็สามารถเข้าไปศึกษาตัวโค้ดได้เลยที่ https://github.com/atom/atom
เป็น Text Editor ที่นิยมมากสุดๆช่วงนึง เพราะมันใช้ฟรีและใช้งานง่ายมาก และสามารถลง Packages(ความสามารถเสริมให้ตัวโปรแกรม) ได้ง่ายๆ และหลากหลาย อย่างที่ผมบอกว่ามันเป็น Open Source เพราะฉะนั้นนักโค้ดทั้งหลายที่เก่งๆจากทั่วโลกก็สามารถช่วยกันพัฒนาให้โปรแกรม Atom ดีขึ้นไปเรื่อยๆได้ และเขียนส่วนเสริมที่มีประโยชน์ต่อนักโค้ดคนอื่นทั่วโลกได้ง่ายๆ เช่นกัน สมชื่อ the hackable text editor(text editor ที่สามารถให้เราแก้ไขอะไรก็ได้)
ส่วนตัวผมทุกวันนี้ก็ไม่ค่อยได้ใช้ Atom แล้วเหมือนกันครับแหะๆ แต่ใช้เป็นบางช่วงสำหรับเฉพาะบางภาษาเพราะส่วนเสริมบางตัวก็ดีมากจริงๆ แต่เคยใช้ตัวนี้อยู่เกือบสองปีได้ จนตัวสุดท้ายที่จะพูดถึงในวันนี้ถือกำเนิดและทำให้ผมย้ายไปใช้ตัวนั้นแทน เพราะว่าหลังๆรู้สึกลงตัวเสริมให้โปรแกรมตัวนี้เยอะๆแล้ว จะทำให้เปิดโปรแกรม Atom ช้ามากๆ ทำให้รู้สึกอยากเปลี่ยน แต่ทุกวันนี้ความเร็วก็ดีขึ้นเยอะแล้วครับจากที่ลองใช้บ้างเป็นบางครั้ง
สามารถดาวน์โหลดโปรแกรม Atom ได้ที่ https://atom.io/
Visual Studio Code
มาถึงตัวสุดท้ายของวันนี้ และเป็นตัวที่ผมใช้อยู่ปัจจุบันคือ Visual Studio Code ครับ เป็น Text Editor ของบริษัท Microsoft(ไมโครซอฟท์) ซึ่งหลายๆคนก็น่าจะรู้จักบริษัทนี้เพราะเป็นยักษ์ใหญ่ในวงการไอที เป็นเจ้าของโปรแกรมดังๆหลายตัว ไม่ว่าจะเป็น Microsoft Office MSN Bing Skype และอื่นๆ แถมยังเป็นเจ้าของระบบปฎิบัติการคอมอันดับหนึ่งของโลกซึ่งก็คือ Windows เป็นที่ฮือฮามากที่โปรแกรมตัวนี้ก็เป็น Open Source เช่นกัน ทั้งๆที่ Microsoft เป็นบริษัทที่แสวงหาผลกำไรจากการขายโปรแกรมเป็นหลัก การที่เป็น Open Source ก็หมายความว่า Microsoft จะหาตังค์จากโปรแกรมตัวนี้ได้ลำบาก เพราะใครๆ ก็สามารถอ่านโค้ดและนำไปพัฒนาได้ ซึ่งก็คือ Microsoft จะไม่ได้ตังค์จากตัวนี้เลย เสียตังค์อีกต่างหากเพราะต้องจ้างโปรแกรมเมอร์มาพัฒนาเรื่อยๆ เพราะกว่าที่จะมีนักโค้ดคนอื่นมาช่วยกันพัฒนาก็ต้องรอสักระยะให้ตัวโปรแกรมเป็นที่นิยมก่อน แต่ที่ Microsoft จะได้ก็คือ ชื่อเสียงในหมู่นักโค้ดและความเชื่อมั่นว่า Microsoft ให้ความสำคัญกับนักโค้ดและ Open Source ขนาดไหน
Microsoft ชูจุดเด่นโปรแกรมตัวนี้โดยการบอกว่ามันเป็น Text Editor ที่เมพและฉลาดสุดๆ สามารถ autocomplete(คาดการณ์ว่าเราจะโค้ดอะไรและโค้ดให้เราเลยโดยอัตโนมัติ) โดยไม่ต้องลงส่วนเสริมใดๆ และยังมี terminal ฝังมาให้เลย ทำให้สามารถใช้คำสั่ง command line ในตัวโปรแกรมได้เลย ถ้าความสามารถที่มีมาให้ไม่พอก็สามารถลงส่วนเสริมต่างๆได้ เหมือน Atom เลย เพราะมันเป็น Open Source เช่นกันนั้นเอง
บอกเลยว่าโดยส่วนตัวผมติด text editor ตัวนี้งอมแงมและใช้มันแทบเป็นประจำถ้าไม่ได้ไปโค้ดฝั่งมือถือ ใช้มาได้สักสองสามปีแล้วยังไม่มีปัญหาอะไรเท่าไหร่ เลยแนะนำว่าถ้าเลือกไม่ถูกระหว่างสามตัวนี้ก็ลองใช้ตัวนี้ดูสักพักแล้วจะหลงรักมันไปเลยละครับ ตอนนี้ถ้าให้ดูที่อันดับยอดนิยมของเครื่องมือนักพัฒนา Visual Studio Code เป็นที่หนึ่งอยู่
สามารถดาวน์โหลดโปรแกรม Visual Studio Code ได้ที่ https://code.visualstudio.com/download
ทิ้งท้าย
สุดท้ายแล้วก็แล้วแต่ผู้อ่านเลยครับ ว่าถูกใจ text editor ตัวไหน อย่างที่เคยบอกไปก่อนหน้านี้ว่ามันไม่มีเครื่องมือที่ดีที่สุดหรอกครับ มีแต่ที่เหมาะที่สุดสำหรับผู้ใช้มากกว่า เพราะฉะนั้นอยากให้ลองทุกตัวที่พูดถึงครับ อาจจะเห็นไม่ตรงกับผู้เขียนก็ได้ ถ้าชอบใช้ตัวไหนหรืออยากแนะนำตัวอื่นก็บอกได้นะครับ หรือข้อมูลที่ให้มีข้อผิดพลาดใดๆ ก็สามารถชี้แจงกันได้นะครับ :)
เกี่ยวกับผู้เขียน
Pongpat Weesommai
เคยทำงานเป็นวิศวกรซอฟต์แวร์อยู่ที่ไต้หวัน และเคยทำงานfreelance ให้บริษัทต่างๆ เช่น aCommerce SoftbankTelecom
แสดงความคิดเห็น
Pongpat Weesommai
เคยทำงานเป็นวิศวกรซอฟต์แวร์อยู่ที่ไต้หวัน และเคยทำงานfreelance ให้บริษัทต่างๆ เช่น aCommerce SoftbankTelecom